การบำรุงรักษารถยนต์ด้วยตนเอง

phithanparts.com-การบำรุงรักษารถยนต์

รถยนต์นั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับในการเดินทาง ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีทางเลือกในการเดินทางหลากหลาย เช่น รถไฟฟ้า เครื่องบิน รถไฟ ฯลฯ เนื่องจากรถยนต์ส่วนบุคคลมีความสะดวกในการเดินทางนั่นเองไม่ต้องไปต่อคิวรอ อยากจอดแวะที่ใดก็สามารถทำได้สะดวก เพราะฉะนั้นหากท่านมีการใช้งานรถยนต์ส่วนตัวเป็นประจำ ก็ต้องทราบถึงการบำรุงรักษาเนื่องจากรถยนต์นั้นเมื่อมีการใช้งานย่อมมีการเสื่อมไปตามสภาพตามกาลเวลา และการใช้งาน นั่นเอง

การตรวจเช็ครถยนต์ด้วยตนเองนั้นสามารถปฏิบัติได้ง่ายๆ โดยใช้เวลาไม่กี่นาทีแต่ก็ต้องทราบวิธีในการตรวจสอบและในวันนี้ทางผู้เขียนบทความก็จะมาแนะนำวิธีการบำรุงรักษารถยนต์ด้วยตนเองแบบง่ายๆ ใช้เวลาเพียง 5 นาที

ไม่ดูแลเครื่องยนต์สม่ำเสมอ รถอาจตายกลางทางได้ คนที่ไม่สำรวจความสามารถ ความรู้ ทักษะของตัวเองเป็นระยะ ๆ อาจพบด้วยความขมขื่นว่าต้องตกงานในวัยกลางคน เราจึงควรรู้จักตัวเอง ประเมินตัวเอง และเรียนรู้ตลอดเวลา

บทเรียนจาก...รถยนต์ โดย วินทร์ เลียววาริณ

1.เดินสำรวจ ก่อนขึ้นรถให้เดินสำรวจใต้ท้องรถก่อนว่ามีน้ำ หรือ น้ำมันหยดใต้ท้องรถหรือ ไม่ หากมีคราบน้ำหรือน้ำมันหยดอยู่ใต้ท้องรถเราก็ต้องมาตรวจสอบกันอีกทีว่าเป็นน้ำหรือน้ำมันชนิดใดที่รั่วซึมออกมาเพื่อหาสาเหตุและรีบดำเนินการแก้ไขหากปล่อยไว้นานก็อาจทำให้รถได้รับความเสียหายและอาจเกิดอุบัติเหตุได้นั่นเอง

2.ตรวจสอบลมยาง ควรเช็คแรงดันลมยางทุก ๆ 3 วันเป็นอย่างน้อย โดยให้ใช้ความดันลมยางตามที่ผู้ผลิตกำหนดที่มีระบุอยู่ในคู่มือประจำรถ และควรเช็คขณะที่ยางยังไม่ร้อน ถ้าลมยางอ่อนผิดปกติควรนำไปตรวจสอบว่า มีตะปูตำหรือหรือมีวัสดุใดอยู่ที่ยางเส้นนั้นหรือไม หากมีก็ควรที่จะต้องเข้าร้านปะยางเพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไปครับ

3.ตรวจสอบสภาพในห้องเครื่องยนต์ เมื่อเปิดห้องเครื่องยนต์ขึ้นมา ก็จะพบชิ้นส่วนมากมายในห้องเครื่อง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นชิ้นส่วนที่สำคัญหรือถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักของรถยนต์ก็ว่าได้ครับ

การตรวจสอบของเหลวต่างๆภายในรถยนต์

ระดับน้ำมันเครื่อง การตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่อง ควรอุ่นเครื่องยนต์จนถึงอุณหภูมิทำงานประมาณ 2 นาที แล้วจึงดับเครื่องเช็คระดับน้ำมันเครื่องโดยใช้ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องการตรวจเช็คที่ถูกต้อง รถควรจอดอยู่ในแนวระนาบ และทำการวัดระดับน้ำมันเครื่องหลังจากดับเครื่องแล้ว 1-2 นาทีเพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลกลับลงด้านล่างก่อน ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออก เช็ดน้ำมันเครื่องที่ติดกับก้านวัดด้วยผ้าสะอาด และให้เสียบก้านวัดน้ำมันเครื่องลงกลับไปจุดเดิมจนสุด ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่าง ” F ” กับ ” L ” แสดงว่าระดับน้ำมันเครื่องปกติ

phithanparts.com-การบำรุงรักษารถยนต์

ระดับน้ำกลั่นแบตเตอรี่ ควรตรวจเช็คระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ โดยน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ จะต้องท่วมแผ่นธาตุทุกๆ ช่อง หากพบว่าน้ำกลั่นช่องใดช่องหนึ่งขาดไม่ท่วมแผ่นธาตุให้หาน้ำกลั่นมาเติมทันที ข้อควรระวัง ไม่ควรเติมน้ำกลั่นจนเต็มช่องเพราะเมื่อเวลามีการชาร์จไฟน้ำกลั่นจะเดือดและล้นออกมาทำให้ชิ้นส่วนในห้องเครื่องได้รับความเสียหายได้ ควรเติมแค่ท่วมแผ่นธาตุเท่านั้น

น้ำมันเบรก เป็นส่วนสำคัญของรถยนต์ ที่ควรตรวจเป็นประจำ การตรวจด้วยสายตาเราเองคือดูให้ระดับน้ำมันเบรคอยู่ระหว่าง Max ขีดบนสุด และจุด Min ขีดต่ำสุด โดยปกตินั้นจะอยู่ที่ ขีดบนสุด ระยะในการเปลี่ยนถ่ายนั้น แนะนำทุกๆ 40,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 2 ปีครับ หากพบว่าน้ำมันเบรกมีสีเปลี่ยนไป ดำขึ้นก็ควรเปลี่ยนถ่ายใหม่ครับ

น้ำมันเพาเวอร์ ระดับของน้ำมันพาวเวอร์จะอยู่ระดับ Max เสมอ หากตรวจเช็คแล้ว พบว่ามีการพร่องหรือ ต่ำกว่าขีดล่างสุด Min ให้ตรวจสอบหาสาเหตุที่น้ำมันพาวเวอร์หาย โดยเบื้องต้นให้เติมน้ำมันพาวเวอร์ให้ถึงระดับ Max ก่อน แล้วให้เข้าศูนย์บริการทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่น้ำมันพาวเวอร์หาย การเปลี่ยนถ่ายนั้น จะมีการเปลี่ยนถ่ายทุกๆ 40,000 กิโลเมตร หรือ ทุกๆ 2 ปี ครับ

น้ำฉีดกระจก การเติมน้ำฉีดกระจก สามารถเติมเต็มถังได้เลยไม่ส่งผลเสียแต่อย่างใด หากต้องการให้น้ำฉีดกระจกมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดกระจกแนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดกระจก ใส่ลงไปในกระบอกน้ำฉีดกระจก น้ำยาฉีดกระจกจะช่วยขจัดคราบแมลงและสิ่งสกปรกได้ดียิ่งขึ้นกว่าน้ำปล่าวครับ แต่ไม่แนะนำให้ใช้แชมพู ผงซักฟอก เนื่องจากจะมีการตกตะกอนเมื่อโดนความร้อน ตะกอนดังกล่าวจะทำให้ท่อน้ำฉีดกระจก หรือหัวฉีดน้ำล้างกระจกอุดตันได้ครับ

การเติมน้ำฉีดกระจก สามารถเติมเต็มถังได้เลยไม่ส่งผลเสียแต่อย่างใด หากต้องการให้น้ำฉีดกระจกมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดกระจกแนะนำให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดกระจก ใส่ลงไปในกระบอกน้ำฉีดกระจก น้ำยาฉีดกระจกจะช่วยขจัดคราบแมลงและสิ่งสกปรกได้ดียิ่งขึ้นกว่าน้ำปล่าวครับ แต่ไม่แนะนำให้ใช้แชมพู ผงซักฟอก เนื่องจากจะมีการตกตะกอนเมื่อโดนความร้อน ตะกอนดังกล่าวจะทำให้ท่อน้ำฉีดกระจก หรือหัวฉีดน้ำล้างกระจกอุดตันได้ครับ

ระบบไฟส่องสว่าง

ไฟส่องสว่างภายในรถ จะมีไฟส่องแผนที่ ไฟเก๋ง ไฟบนเรือนไมล์ ไฟบริเวณตำแหน่งแอร์ ซึ่งไฟภายในรถนั้นสามารถตรวจสอบได้ไม่ยาก ระไฟส่องสว่างบางชนิดอาจจะต้องเปิดผ่านไฟหรี่ก่อนจึงจะตรวจสอบได้ เช่น ไฟตำแหน่งแอร์ หรือไฟบนเรือนไมล์ในบางรุ่น

ไฟส่องสว่างภายนอก ก็จะมีหลายส่วนเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ไฟหรี่ หน้า-หลัง ไฟเลี้ยว ซ้าย-ขวาไฟตัดหมอก หน้า – หลัง สามารถเปิดสวิทช์แล้วทำการตรวจสอบได้เลย ส่วนไฟถอยหลัง นั้นก็สามารถตรวจสอบได้ง่ายมากเพียงแค่บิดสวิตช์กุญแจที่ตำแหน่ง “ON” เข้าเกียร์ถอยหลัง เพียงเท่านี้ก็สามารถตรวจเช็คไฟถอยหลังได้แล้ว ส่วนไฟเบรกนั้นอาจจะต้องหาผู้ช่วยในตรวจสอบ เพราะจะต้องมีการเหยียบแป้นเบรกก่อนจึงจะสามารถตรวจสอบไฟเบรกได้ครับ

และทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการตรวจสอบรถยนต์ด้วยตนเองแบบง่ายๆ ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที ก็สามารถตรวจสอบเสร็จแล้ว ทางผู้เขียนบทความแนะนำให้มีการตรวจสอบ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ถ้าอายุรถมากๆ อาจจะตรวจสอบทุก ๆ 3 วันก็ได้ เพื่อยืดอายุการใช้ให้กับรถของท่านครับ ทางฝ่ายฝึกอบรม บริษัทพิธานพาณิชย์ จำกัด กรุงเทพฯ ขอขอบคุณ ลูกค้าทุกท่านที่ติดตามบทความดีๆ ของเรา แล้วพบกันใหม่ในบทความถัดไปนะครับ ขอบคุณครับ.